พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมาร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมวงรับประทานอาหารอำลาสื่อฯ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นวันสุดท้าย
พยากรณ์สภาพอากาศล่วงหน้า 10 วัน เตือนฝนตกหนัก จนถึง 5 ก.ย.คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง อันดับ1!
“แรมโบ้” อำลานายกฯ เผย อยู่มาหลายรัฐบาลไม่เคยเจอผู้นำที่ดีเท่า “ประยุทธ์” ดีใจทักษิณกลับบ้าน
ทันทีที่เดินทางมาถึงยังบริเวณหน้ารังผู้สื่อข่าว พลเอกประยุทธ์ ได้เบรกสื่อมวลชน ว่าวันนี้คุยแต่เรื่องสนุกสนานก็พอ การเมืองไม่ต้องคุยกัน เพราะคุยกันมา 9 ปีแล้ว ทะเลาะกันไปบ้างก็เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็ทำงานเป็น พูดไม่เพราะบ้างอะไรบ้างก็ตามสไตล์
ส่วนหลังจากนี้ จะไปเที่ยวพักผ่อนที่ใด พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า คงให้นิ่งสักระยะ ไปถูกหรือเปล่ายังไม่รู้ เพราะที่ผ่านมานั่งรถจากบ้านมาทำเนียบทุกวัน
เมื่อถามว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น กับพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ฝากลุงป๊อกไปเที่ยวก่อน ชีวิตเราหายไป 9 ปี ก็อยากอยู่กับครอบครัว สถานการณ์มันก็เปลี่ยนไป ตามสภาวะซึ่งขณะนี้ ก็สงบเรียบร้อยในระดับที่น่าพอใจ หากพวกเราช่วยกันรักษามันก็ไปได้ เราต้องทำให้ต่อเนื่อง วันนี้ไม่ขอวิจารณ์ หลังจากนี้ตนก็จะปฏิบัติหน้าที่ยังบ้านพัก จนกว่า ครม. ชุดใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เดินทางมาพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า แล้วถามถึงห้องนอน พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าแล้วแต่ท่าน ถ้าจะนอนก็มีห้องเล็กๆ อยู่ ซึ่งหากงานเยอะ งานสำคัญ ก็แล้วแต่ท่าน แต่ตนไม่เคยนอน เพราะพวกเธอมารบกวนนอนไม่หลับ พูดผิดไปตนก็โมโห แล้วก็กลับมาเสียใจ พร้อมกับยกตัว อย่างนายอนุทินสายหวานไม่เคยทะเลาะกับใคร พูดจาดีตลอด ส่วนฉันสายดาร์ก หรือขี้โมโห มันก็เป็นประจำ อยู่แล้วเพราะเป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว บางทีอาจไม่เหมาะสม แต่เราก็ดูผลงานที่ออกมา เพราะเราเป็นทหารมาก่อน
เมื่อสื่อมวลชนขอให้พลเอกประยุทธ์พูดเสียงดัง เพราะไม่ได้ยิน พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า บางทีพูดไม่ได้ยินแล้วทำไมเขียนได้ รู้ใจขนาดนั้นเลย เขียนออกมาเป็นนิยายเต็มเลย
ส่วนหลังจากนี้ หากพ้นตำแหน่งจะเหงาหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าไม่เหงา เราเป็นคนช่างคิดช่างอ่าน นิสัยนี้เลิกไม่ได้ แต่ก็ดูสถานการณ์ความเป็นไป ตนก็เหมือนประชาชนคนหนึ่ง เราต้องกำหนดบทบาทตัวเองให้เหมาะสม แต่ก่อนอาจจะดุไปบ้างเพราะเป็นนายกฯ ก่อนที่จะหยอกสื่อมวลชนว่า เดี๋ยวจะให้ไปสหรัฐอเมริกา ซึ่งสื่อมวลชนตอบกลับว่า เข้าไม่ได้ตั้งแต่สนามบินแล้ว ก่อนที่พลเอกประยุทธ์จะกล่าวต่อ ว่า แบบนี้ให้ไปสัมภาษณ์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก่อนที่สื่อจะกล่าวว่า เข้ารั้วทำเนียบขาวยังไม่ได้ พลเอกประยุทธ์จึงกล่าวว่า ไม่เหมือนกับที่ประเทศไทยนี่แหละคืออิสระเสรีของสื่อ นี่คือประเทศไทยไม่เหมือนที่อื่น
อย่างไรก็ตาม พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวถึง การบริหารราชการ ว่าต้องระมัดระวัง ในการใช้อำนาจ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย นี่คือวิธีการทำงานของเรามีกระบวนการยุติธรรมมีอำนาจตุลาการนิติบัญญัติเขาก็มีอำนาจของเขาเราไม่สามารถไปก้าวล่วงได้เราต้องเคารพตรงนี้
เมื่อสื่อถามย้ำว่างานอดิเรกจากนี้ไปของพลเอกประยุทธ์ นอกจากอ่านหนังสือแล้ว จะมีการเขียนหนังสือหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าขอคิดดูก่อน ขอพักสมองบ้าง เพราะเจอกับหนังสือมา 9 ปีแล้ว
ขณะที่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนชอบทุกเพลงที่แต่งมา เพราะมีความหมายสำหรับเรา เราไม่ใช่กวี แต่เราทำได้ก็เลยทำ ภาษาไทยเราก็ได้ดีเพราะแม่เป็นครู เวลาประชุมทหารก็มีกลอนมีกวีตลกบ้างอะไรบ้าง แล้วก็ปลุกใจน้องๆทหารเด็ก เพราะไม่เช่นนั้นเวลาไปถึงสนามรบแล้วอ่อนแอ จะไม่สามารถสู้รบได้
โดยพลเอกประยุทธ์ ยังเปิดใจว่าเพลงที่ตนชอบที่สุดคือเพลงสะพาน เนื่องจากได้แรงบันดาลใจมาจาก การข้ามสายน้ำที่เกรี้ยวกราดพร้อมบอกให้สื่อมวลชนเปิดเพลงสะพาน และฮัมเพลงตาม
ส่วนเพลงเราจะทำตามสัญญา พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนั้นก็คิดอย่างนั้นจริง ไม่ได้คิดจะมาถึงตอนนี้หรอก ก็รู้ว่าเข้ามาอย่างไร สถานการณ์เป็นอย่างไร ถ้ามันเรียบร้อยฉันก็ไปนานแล้ว ถ้ามันสงบเรียบร้อย ไม่มีปัญหาก็ไม่ได้ตั้งใจอยู่มาถึงขนาดนี้หรอก 4 ปีแรก 4 ปีหลังอย่าลืมว่าเข้ามาด้วยอะไร ไม่ใช่พูดอยู่อย่างนั้นแหละไม่ยอมเลิกสักที ต้องไปดูว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่มีการใช้ความรุนแรงต่อกันเป้าหมายฉันมีแค่นั้น
ส่วนมองอย่างไรกับการตั้งรัฐบาลปรองดอง พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า มันไม่ใช่รัฐบาลปรองดองเราต้องปรองดองกันเอง ใครจะไปสั่งให้ปรองดองกันได้ ขณะเดียวกัน ยังกล่าวอีกว่า ทุกอย่างจะสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนที่คนบอกว่า ตนหวงอำนาจ อำนาจนั้น ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ มันเป็นไปตามกลไกการเลือกตั้ง ถามพี่หนูสิ นายอนุทิน) ว่าใช้อำนาจอะไร ตนบอกครม.ทุกครั้ง อำนาจต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ดีหรือไม่ดีคือการใช้อำนาจ หากใช้ไม่ถูกก็มีปัญหา ทนพยายามระมัดระวังมาตลอด 9 ปี เราอยู่กับการเมืองมาหลายปีทั้ง 4 ปีแรกและ 4 ปีหลัง เราต้องทำการเมืองที่สร้างสรรค์ ถ้าคนแตกแยกกันมากๆ มันก็อันตราย ถ้าแตกแยกกันเป็นกลุ่มๆ มันเดินหน้าไม่ได้ อันตรายกับลูกหลาน แต่วันหน้าอาจจะดีก็ได้ เราพูดมากก็จะกลายเป็นมีอำนาจอะไรหรือเปล่า ตนไม่เคยคิดว่าตนมีอำนาจ
ส่วนอยากจะฝากอะไรต่อรัฐบาลใหม่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปฝากนายอนุทิน ต้องไปย้อนดูว่ามันมีอะไรอยู่แล้วบ้างหลายๆ อย่างที่คุณพูดมามันก็มีอยู่แล้วหลักการกระจายอำนาจก็ต้องไปดูว่ามันมีอยู่แล้วซึ่งก็ต้องไปดูกันในสภา คนไม่มีความเห็น
ส่วนจะฝากอะไรถึงชาวเน็ตหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ฝากความรักความคิดถึง ไม่โกรธเคืองใคร ไม่ว่าจะชมจะรักจะชอบหรือไม่ชอบ แต่คนในโซเชียลจะต้องมีภูมิคุ้มกัน บางทีไม่รู้จักกันแต่ฟังมากๆ ก็เกลียดตามเขา ต้องมีเหตุผล ไม่อย่างนั้นวันหน้าจะอยู่อย่างไรถ้าทุกคนบิดเบี้ยวไปหมด กฎหมายอยู่ไหนไม่รู้มันอันตรายสำหรับประเทศ พวกเราก็ช่วยกันก็แล้วกัน
พร้อมกันนี้พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวว่าอ่านโซเชียลแล้วจี๊ดทุกเรื่อง แต่ไม่เป็นไรมันเป็นการแสดงความคิดเห็น ซึ่งจากนี้ไปตนก็คงไม่ดู เพราะที่ผ่านมาทีมงานเป็นคนทำให้ และตนไม่เคยเล่นโซเชียลมีคนทำให้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองหน้าผู้สื่อข่าวคนไหนแล้วจี๊ดที่สุด พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า จี๊ดทุกคน
เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ว่าประทับใจอะไรกับเรือลำนี้ 9 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ความรักคือความรักความสำเร็จคือความรักความสามัคคี ที่ทำอย่างไรเพื่อประเทศชาติเพื่อประชาชนและเพื่อสถาบันต่างๆ
พร้อมย้อนถามสื่อว่า เมื่อถูกถามว่าคิดอย่างไรกับเรือลำใหม่ หวังให้ประเทศชาติเดินหน้า ฉันก็หวังเหมือนกับพวกเธอ ตอบแบบนี้ได้ไหม ถามช้างตอบม้าก่อนที่จะเรียกเสียงหัวเราะ จากวงรับประทานอาหาร
ส่วนประทับใจอะไรใน 9 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ประทับใจการประชุมครม. ทุกสัปดาห์ ที่ทุกคนเห็นชอบร่วมกันในการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้มีไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ ขอให้ไปอ่านดู ไม่ใช่ไม่อ่านแล้ววิจารณ์ได้เป็นหน้าๆ
ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ ยังยอมรับว่า 9 ปีที่ผ่านมา งานคืบหน้าไปได้เกินครึ่ง บางโครงการก็ถึง 80% , 90% อย่างโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณสุข และได้ร่วมถ่ายรูปกับสื่อมวลชน และหยอกล้ออย่างเป็นกันเอง
จากนั้นพลเอกประยุทธ์ ได้ขึ้นไปสักการะศาลพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่กับตึกไทยคู่ฟ้า ในเวลา 13.00 น. ก่อนที่จะลงมาพบเอฟซีและข้าราชการที่มารอส่ง การปฏิบัติหน้าที่ในวันสุดท้าย พร้อมกล่าวว่า อะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ ไม่พอใจไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น ก็ขอให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและวิสาหกิจ เข้มแข็งเดินหน้าต่อไป
โดยพลเอกประยุทธ์ร้องเพลงคำสัญญา ของวงอินโดจีน ร่วมกับนักร้องกรมประชาสัมพันธ์ และเปิดเพลงด้วยรักและผูกพันธ์
อย่างไรก็ตาม พลเอกประยุทธ์ ยังได้เดินทางไปยัง บ้านพิษณุโลกบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในโอกาสที่อำลาตำแหน่ง ก่อนเดินทางกลับไปยังบ้านพัก